ใครแต่งงานกับจักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี?

  • เอากุสเทอ วิคโทรีอา แห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ แต่งงานแล้ว จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี วันที่ จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี อายุ 22 ปีในวันแต่งงาน (22 ปี 1 เดือน 0 วัน) เอากุสเทอ วิคโทรีอา แห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ อายุ 22 ปีในวันแต่งงาน (22 ปี 4 เดือน 5 วัน) ช่องว่างอายุ 0 ปี 3 เดือน 5 วัน.

    การแต่งงานสิ้นสุดลงในปี สาเหตุ: การเสียชีวิตของหัวเรื่อง

  • Princess Hermine Reuss of Greiz แต่งงานแล้ว จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี วันที่ จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี อายุ 63 ปีในวันแต่งงาน (63 ปี 9 เดือน 9 วัน) Princess Hermine Reuss of Greiz อายุ 34 ปีในวันแต่งงาน (34 ปี 10 เดือน 19 วัน) ช่องว่างอายุ 28 ปี 10 เดือน 20 วัน.

    การแต่งงานสิ้นสุดลงในปี

จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี: ไทม์ไลน์สถานะการแต่งงาน

จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี

จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี

จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 (เยอรมัน: Wilhelm II) หรือพระนามเต็มคือ ฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม วิคทอร์ อัลแบร์ท แห่งปรัสเซีย (เยอรมัน: Friedrich Wilhelm Viktor Albert von Preußen) ทรงเป็นจักรพรรดิเยอรมัน (ไคเซอร์) และกษัตริย์แห่งปรัสเซียองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์โฮเอินท์ซ็อลเลิร์น ครองราชสมบัติในปี 1888 จนถูกประกาศให้สละราชสมบัติในปี 1918 จากความปราชัยในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 มีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงมีลูกพี่ลูกน้องหลายองค์ที่เป็นกษัตริย์และราชินีในหลายประเทศ วิลเฮ็ล์มใช้ชีวิตส่วนใหญ่ก่อนเป็นจักรพรรดิอยู่ในตำแหน่งรัชทายาทลำดับที่สอง จนกระทั่งในปี 1888 สมเด็จปู่อย่างไคเซอร์วิลเฮ็ล์มที่ 1 เสด็จสวรรคต ส่วนสมเด็จพ่ออย่างไคเซอร์ฟรีดริชที่ 3 ครองราชย์ต่อได้เพียงเก้าสิบวันก็สวรรคต ส่งผลให้ในปีดังกล่าว วิลเฮ็ล์มได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรรดิเยอรมันและกษัตริย์แห่งปรัสเซีย ซึ่งหลังขึ้นครองราชย์ไม่ถึงสองปี พระองค์ก็ทรงปลดนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษผู้สร้างจักรวรรดิอย่างอ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์ค

ภายหลังจากปลดบิสมาร์ค ไคเซอร์วิลเฮ็ล์มที่ 2 เข้าควบคุมนโยบายชาติโดยตรง และริเริ่มโครงการ "เส้นทางใหม่" ที่ดูก้าวร้าวเพื่อประสานสถานะในฐานะมหาอำนาจของโลกที่ได้รับการยอมรับนับถือ ต่อมาในช่วงรัชสมัยของพระองค์ เยอรมนีได้ครอบครองดินแดนในจีนและแปซิฟิก (เช่นอ่าวเจียวโจว หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา และหมู่เกาะแคโรไลน์) และกลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของยุโรป อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงมักจะทำลายความก้าวหน้าดังกล่าวโดยการกล่าวข่มขู่ต่อประเทศอื่น ๆ และแสดงความคิดเห็นต่อมุมมองของพวกหวาดกลัวชาวต่างชาติโดยไม่ปรึกษารัฐมนตรีของพระองค์ ในทำนองเดียวกัน ระบอบการปกครองของพระองค์ได้สร้างความแปลกแยกจากชาติมหาอำนาจอื่น ๆ ของโลก โดยการริเริ่มสร้างกองทัพเรือขนาดใหญ่ ท้าทายการควบคุมโมร็อกโกของฝรั่งเศส และการสร้างสายรถไฟผ่านแบกแดด ซึ่งเป็นการคุกคามต่อการปกครองของบริติชในอ่าวเปอร์เซีย ดังนั้น ในสองทศวรรษของศตวรรษที่ 20 เยอรมนีสามารถพึ่งพาประเทศที่อ่อนแอกว่าอย่างออสเตรีย-ฮังการี และจักรวรรดิออตโตมันที่กำลังเสื่อมถอยในฐานะพันธมิตร

ถึงแม้ไคเซอร์วิลเฮ็ล์มที่ 2 ทรงเพิ่มความแข็งแกร่งให้เยอรมนีในฐานะมหาอำนาจด้วยการสร้างกองทัพเรือน้ำลึก และส่งเสริมนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ แต่พระองค์มักมีแถลงการณ์อย่างไม่รอบคอบ และดำเนินนโยบายต่างประกาศอย่างเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำให้นานาประเทศเริ่มมองพระองค์เป็นศัตรู หลายคนมองว่านโยบายการต่างประเทศของพระองค์ เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิเยอรมัน อย่างในปี 1914 เยอรมนีให้การรับประการว่าจะสนับสนุนทางทหารต่อจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีในช่วงวิกฤตการณ์เดือนกรกฎาคม ซึ่งผลักให้ยุโรปเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม พระองค์ไม่ใช่ผู้มีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำในยามสงคราม พระองค์ยกให้กิจการการทหารและการสงครามทั้งหมด อยู่ในการตัดสินใจของคณะเสนาธิการใหญ่ การมอบหมายอำนาจอย่างกว้างขวางนี้ส่งผลให้เกิดระบอบเผด็จการทหารโดยพฤตินัยซึ่งครอบงำนโยบายระดับชาติในช่วงที่เหลือของสงคราม แม้ว่าเยอรมนีได้รับชัยชนะเหนือรัสเซียและได้รับดินแดนพอสมควรในยุโรปตะวันออก แต่เยอรมนีก็ถูกบังคับให้สละดินแดนที่ได้มาทั้งหมดหลังความปราชัยย่อยยับในแนวรบด้านตะวันตกในฤดูใบไม้ร่วงปี 1918

พระองค์สูญเสียแรงสนับสนุนทั้งจากกองทัพและราษฎร นายกรัฐมนตรีมัคซีมีลีอาน ฟอน บาเดิน โน้มน้าวให้พระองค์สละราชสมบัติ แต่พระองค์บ่ายเบี่ยง จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายน 1918 ก็เกิดการปฏิวัติเยอรมัน ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีออกประกาศการสละราชสมบัติโดยไม่รอการลงพระนาม พระองค์จึงเสด็จลี้ภัยสู่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งพระองค์ทรงประทับอยู่ที่นั้นในช่วงที่ถูกยึดครองโดยนาซีเยอรมันในปี 1940 ก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ในปี 1941

อ่านเพิ่มเติม...
 
Wedding Rings

เอากุสเทอ วิคโทรีอา แห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์

เอากุสเทอ วิคโทรีอา แห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์

สมเด็จพระจักรพรรดินีวิลเฮ็ล์ม หรือ เอากุสเทอ วิคโทรีอาแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ (เยอรมัน: Auguste Viktoria Friederike Luise Feodora Jenny; 22 ตุลาคม ค.ศ. 1858 – 11 เมษายน ค.ศ. 1921) เป็นจักรพรรดินีเยอรมันและสมเด็จพระราชินีแห่งปรัสเซียพระองค์สุดท้าย โดยอภิเษกสมรสกับจักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี

อ่านเพิ่มเติม...
 

สถานที่จัดงานแต่งงาน

พระราชวังกรุงเบอร์ลิน, เบอร์ลิน, ประเทศเยอรมนี

จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี

จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี
 
Wedding Rings

Princess Hermine Reuss of Greiz

Princess Hermine Reuss of Greiz

Princess Hermine Reuss of Greiz (German: Hermine, Prinzessin Reuß zu Greiz; 17 December 1887 – 7 August 1947) was the second wife of Wilhelm II, German Emperor. They were married in 1922, four years after he abdicated. Wilhelm was her second husband; her first husband, Prince Johann of Schönaich-Carolath, had died in 1920. She was called Empress Hermine by some supporters of the Hohenzollern dynasty.

อ่านเพิ่มเติม...
 

ลูก ของ จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี และคู่สมรส:

พ่อของ จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี และคู่สมรสของเขา:

แม่ของ จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี และคู่สมรสของเธอ: