ใครแต่งงานกับFernando I da Romênia?

  • Marie of Romania แต่งงานแล้ว Fernando I da Romênia วันที่ Ferdinand I of Romania อายุ 27 ปีในวันแต่งงาน (27 ปี 4 เดือน 17 วัน) Marie of Romania อายุ 17 ปีในวันแต่งงาน (17 ปี 2 เดือน 12 วัน) ช่องว่างอายุ 10 ปี 2 เดือน 5 วัน.

    การแต่งงานดำเนินไป 34 ปี 6 เดือน 10 วัน (12608 วัน) การแต่งงานสิ้นสุดลงในวันที่

Fernando I da Romênia: ไทม์ไลน์สถานะการแต่งงาน

Fernando I da Romênia

Fernando I da Romênia

Fernando I (nome pessoal em alemão: Ferdinand Viktor Albert Meinrad Hohenzollern; Sigmaringen, 24 de agosto de 1865 — Sinaia, 20 de julho de 1927), apelidado o Unificador e Fernando, o Leal, foi o Rei da Romênia de 1914 até sua morte. Nascido como um príncipe alemão de Hohenzollern-Sigmaringen, era o segundo filho de Leopoldo de Hohenzollern-Sigmaringen e de sua esposa, a infanta Antónia de Portugal. Sua família fazia parte do ramo católico da Casa de Hohenzollern da família real prussiana.

Fernando passou sua infância e adolescência na residência da família em Sigmaringen, Alemanha. Em 1885, ele se formou na Escola de Oficiais de Cassel, sendo nomeado com o posto de segundo-tenente no 1º Regimento de Guardas da Corte Real da Prússia. Ele então estudou na Universidade de Leipzig e na Escola Superior de Ciências Políticas e Econômicas em Tubinga, onde se formou em 1889.

A partir de 1889, ele se tornou Príncipe Herdeiro do Reino da Romênia, após a renúncia de seu pai e irmão mais velho, Guilherme, aos seus direitos de sucessão à coroa real da Romênia. A partir desse momento, fixou residência na Romênia, onde continuou sua carreira militar, ocupando uma série de cargos honorários, sendo promovido ao posto de general de corpo de exército.

Ele se casou em 29 de dezembro de 1892, em Sigmaringen, com a princesa Maria de Edimburgo, neta da rainha Vitória do Reino Unido, filha do duque de Edimburgo (o futuro duque de Saxe-Coburgo-Gota) e da grã-duquesa Maria Alexandrovna, filha única do imperador Alexandre II da Rússia.

Fernando tornou-se Rei do Reino da Romênia em 10 de outubro de 1914 , sob o nome de Fernando I, após a morte de seu tio, o rei Carlos I. Ele liderou a Romênia durante a Primeira Guerra Mundial, escolhendo lutar ao lado da Tríplice Entente contra as Potências Centrais, um fato que resultou em sua exclusão da Casa Real de Hohenzollern pelo imperador Guilherme II da Alemanha.

No final da guerra, a Romênia completou o processo de obtenção de um estado nacional-unitário, unindo a Bessarábia, a Bucovina e a Transilvânia com o Reino Antigo. Em 15 de outubro de 1922, em Alba Iulia, Fernando foi coroado "Rei da Grande Romênia".

Nos anos que se seguiram à Primeira Guerra Mundial, a Romênia passou por uma série de transformações profundas, especialmente por meio da implementação da reforma agrária e do sufrágio universal.

Em 1925, eclodiu a crise dinástica, causada pela renúncia do príncipe Carlos aos seus direitos de sucessão à Coroa da Romênia, o que levou Fernando a excluir Carol da Casa Real da Romênia e a nomear seu filho, Miguel I, como príncipe herdeiro, que sucederia ao trono.

Fernando morreu em Sinaia, em 20 de julho de 1927, de câncer intestinal. Ele foi enterrado na Catedral de Curtea de Argeș.

อ่านเพิ่มเติม...
 
Wedding Rings

Marie of Romania

Marie of Romania

สมเด็จพระราชินีมารีอาแห่งโรมาเนีย (โรมาเนีย: Maria a României) หรือ เจ้าหญิงมารีแห่งเอดินบะระ (มารี อเล็กซานดรา วิกตอเรีย, 27 ตุลาคม ค.ศ. 1875 - 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1938) เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนียพระองค์สุดท้าย โดยเป็นพระมเหสีในพระเจ้าแฟร์ดีนันท์ที่ 1 แห่งโรมาเนีย

เสด็จพระราชสมภพในฐานะพระราชวงศ์อังกฤษ พระองค์ทรงได้รับพระอิสริยยศ เจ้าหญิงมารีแห่งเอดินบะระเมื่อครั้งพระราชสมภพ พระบิดาและพระมารดาของพระองค์คือ เจ้าชายอัลเฟรด ดยุกแห่งเอดินบะระและแกรนด์ดัชเชสมาเรีย อเล็กซานดรอฟนาแห่งรัสเซีย ในวัยเยาว์ เจ้าหญิงมารีอาทรงใช้พระชนมชีพในเคนต์, มอลตาและโคบูร์ก หลังจากการปฏิเสธข้อเสนอที่จะอภิเษกสมรสกับพระญาติของพระองค์เองคือ พระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักรในอนาคต พระองค์ทรงได้รับเลือกให้เป็นพระวรชายาในมกุฎราชกุมารแฟร์ดีนันท์แห่งโรมาเนีย องค์รัชทายาทของพระเจ้าการอลที่ 1 แห่งโรมาเนีย ในปี ค.ศ. 1892 เจ้าหญิงมารีทรงดำรงเป็นมกุฎราชกุมารีอยู่ระหว่างปี ค.ศ. 1893 ถึง ค.ศ. 1914 ซึ่งทรงดำรงในพระอิสริยยศนี้ยาวนานที่สุดในบรรดาผู้ครองพระอิสริยยศนี้ และทรงกลายเป็นที่นิยมชมชอบในหมู่ประชาชนชาวโรมาเนียในทันที เจ้าหญิงมารีอาทรงควบคุมพระสวามีผู้ทรงอ่อนแอและเอาแต่ใจก่อนที่จะทรงขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี ค.ศ. 1914 เป็นแรงกระตุ้นให้นักหนังสือพิมพ์ชาวแคนาดาได้ให้ความเห็นว่า "มีพระมเหสีเพียงไม่กี่พระองค์เท่านั้นที่จะทรงมีอิทธิพลยิ่งใหญ่กว่าสมเด็จพระราชินีมารีอาในช่วงรัชสมัยพระสวามีของพระองค์"

หลังจากการเกิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สมเด็จพระราชินีมารีอาทรงผลักดันให้พระเจ้าเฟร์ดีนันท์ดำเนินการเป็นพันธมิตรกับไตรภาคีและประกาศสงครามกับเยอรมนี ซึ่งที่สุดก็ทรงดำเนินการในปี ค.ศ. 1916 ในช่วงแรกของสงคราม บูคาเรสต์ได้ถูกยึดครองโดยฝ่ายมหาอำนาจกลางและสมเด็จพระราชินีมารีอา พระเจ้าเฟร์ดีนันท์พร้อมพระโอรสธิดาทั้ง 5 พระองค์ทรงลี้ภัยไปยังมอลดาเวีย ซึ่งที่นั่นสมเด็จพระราชินีมารีอาและพระธิดาทั้งสามพระองค์ทรงประกอบพระกรณียกิจในฐานะพยาบาลในโรงพยาบาลทหาร ทรงดูแลทหารที่บาดเจ็บหรือเป็นอหิวาตกโรค ในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 1918 แคว้นทรานซิลเวเนีย ตามมาด้วยเบสซาราเบียและบูโกวินา ได้รวมตัวกันจัดตั้ง ราชอาณาจักรโรมาเนียเก่า พระนางมารีอาในขณะนี้ทรงดำรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งเกรตเทอร์โรมาเนีย พระองค์ทรงเข้าร่วมการประชุมสันติภาพปารีส ค.ศ. 1919 ซึ่งพระองค์ทรงทำให้นานาชาติยอมรับในอาณาเขตที่กว้างใหญ่ของโรมาเนีย ในปี ค.ศ. 1922 สมเด็จพระราชินีมารีอาและพระเจ้าเฟร์ดีนันท์ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกในมหาวิหารที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษที่เมืองโบราณซึ่งก็คือ อัลบาอูเลีย เป็นพระราชพิธีที่ซับซ้อนซึ่งสะท้อนสถานะของทั้งสองพระองค์ในฐานะพระมหากษัตริย์ของรัฐทั้งมวล

ขณะเป็นสมเด็จพระราชินี พระองค์ทรงได้รับความนิยมอย่างมาก จากทั้งในโรมาเนียและต่างประเทศ ในปี ค.ศ. 1926 สมเด็จพระราชินีมารีอาและพระโอรสธิดาอีก 2 พระองค์ได้เสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาในทางการทูต ทั้งสามพระองค์ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างกระตือรือร้นและทรงเสด็จเยือนหลายเมืองก่อนจะกลับโรมาเนีย เมื่อเสด็จกลับ สมเด็จพระราชินีมารีอาทรงพบว่าพระเจ้าเฟร์ดีนันท์ทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคตในไม่กี่เดือนต่อมา ในช่วงนี้สมเด็จพระพันปีหลวงมารีอาทรงปฏิเสธที่จะเป็นส่วนหนึ่งในสภาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่จะต้องปกครองประเทศแทนพระนัดดาที่ยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะ ซึ่งก็คือ พระเจ้ามีไฮแห่งโรมาเนีย ในปี ค.ศ. 1930 พระโอรสองค์โตของพระนางมารีอาคือ เจ้าชายการอลแห่งโรมาเนีย ซึ่งทรงถูกเว้นสิทธิในการสืบราชบัลลังก์ ได้ถอดถอนพระโอรสและช่วงชิงราชบัลลังก์ ขึ้นครองราชย์ในฐานะ พระเจ้าการอลที่ 2 พระองค์ทรงถอดถอนพระนางมารีอาออกจากบทบาททางการเมืองและทรงพยายามทำลายความนิยมในตัวพระมารดา เป็นผลให้พระนางมารีอาต้องเสด็จออกจากบูคาเรสต์และทรงใช้พระชนมชีพที่เหลือในชนบท หรือไม่ก็พระตำหนักของพระองค์ที่ทะเลดำ ในปี ค.ศ. 1937 พระองค์ทรงพระประชวรด้วยโรคตับแข็งและสิ้นพระชนม์ในปีถัดมา

จากการเปลี่ยนแปลงโรมาเนียไปสู่สาธารณรัฐสังคมนิยมโรมาเนีย สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ถูกประณามอย่างรุนแรงโดยทางการพรรคคอมมิวนิสต์ มีหลายบันทึกชีวประวัติเกี่ยวกับพระราชวงศ์ที่ได้บรรยายว่า พระนางมารีอาทรงเป็นคนติดสุราและมีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศ โดยมาจากเรื่องอื้อฉาวจำนวนมากและพฤติกรรมที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวทั้งก่อนและในระหว่างสงคราม ในช่วงปีที่นำไปสู่การปฏิวัติโรมาเนียในปี ค.ศ. 1989 ความนิยมในพระนางมารีอาได้รับการฟื้นฟูและพระองค์ทรงได้รับการเสนอภาพในฐานะผู้รักชาติจากประชาชน แรกเริ่มสิ่งที่จดจำได้เกี่ยวกับพระนางมารีอาคือการอุทิศพระองค์ในฐานะพยาบาล แต่ก็ทรงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในการที่ทรงพระนิพนธ์งานเขียน รวมถึงพระนิพนธ์อัตชีวประวัติที่น่าสะเทือนใจของพระองค์เอง

อ่านเพิ่มเติม...
 

สถานที่จัดงานแต่งงาน

ซีคมาริงเงิน, , ประเทศเยอรมนี