ใครแต่งงานกับวลาดีมีร์ เลนิน?

  • นาเดจดา ครุปสกายา แต่งงานแล้ว วลาดีมีร์ เลนิน ในปี ช่องว่างอายุ 1 ปี 1 เดือน 27 วัน.

    การแต่งงานสิ้นสุดลงในวันที่

วลาดีมีร์ เลนิน: ไทม์ไลน์สถานะการแต่งงาน

วลาดีมีร์ เลนิน

วลาดีมีร์ เลนิน

วลาดีมีร์ อิลลิช อุลยานอฟ เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อเล่นของเขาว่า เลนิน (22 เมษายน [ตามปฎิทินเก่า: 10 เมษายน] ค.ศ. 1870 – 21 มกราคม ค.ศ. 1924) เป็นนักปฏิวัติ นักการเมือง และนักทฤษฎีชาวรัสเซีย เลนินดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาล ในฐานะเป็นผู้ก่อตั้งและประมุขคนแรกของรัสเซียโซเวียต ตั้งแต่ ค.ศ. 1917 ถึง ค.ศ. 1924 และสหภาพโซเวียต ตั้งแต่ ค.ศ. 1922 ถึง ค.ศ. 1924 ภายใต้การบริหารของเลนิน ประเทศรัสเซียซึ่งในเวลาต่อมาคือสหภาพโซเวียต ได้กลายเป็นรัฐสังคมนิยมแบบพรรคเดียวที่ถูกปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต เขาได้พัฒนาแนวคิดของลัทธิคอมมิวนิสต์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่รู้จักกันดีในชื่อของลัทธิเลนิน

เลนินเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางระดับสูงในเมืองซิมบีร์สค์ เลนินยอมรับการเมืองสังคมนิยมปฏิวัติหลังจากที่พี่ชายของเลนินถูกประหารชีวิตใน ค.ศ. 1887 หลังถูกไล่ออกจากราชวิทยาลัยคาซัน เนื่องจากมีส่วนร่วมในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลซาร์ของจักรวรรดิรัสเซีย เลนินย้ายไปกรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์กใน ค.ศ. 1893 และกลายเป็นนักเคลื่อนไหวลัทธิมากซ์ ใน ค.ศ. 1893 เขาถูกจับในข้อหายุยงปลุกปั่นและถูกเนรเทศไปยังชูเชียนสโคเยในไซบีเรียเป็นเวลาสามปี ซึ่งเขาได้แต่งงานกับนาเดจดา ครุปสกายา หลังจากการเนรเทศ เลนินย้ายไปยุโรปตะวันตก ซึ่งเขาได้กลายเป็นนักทฤษฎีลัทธิมากซ์ที่โดดเด่นในพรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย ใน ค.ศ. 1903 เขามีบทบาทสำคัญในการแตกแยกทางอุดมการณ์ของพรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตย ซึ่งเลนินกลายเป็นผู้นำฝ่ายบอลเชวิคเพื่อต่อต้านฝ่ายเมนเชวิคที่นำโดยยูลี มาร์ตอฟ หลังการปฏิวัติที่ล้มเหลวของรัสเซียใน ค.ศ. 1905 เลนินได้รณรงค์เพื่อให้สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเปลี่ยนเป็นการปฏิวัติของชนชั้นกรรมาชีพทั่วทั้งยุโรป ซึ่งในฐานะนักลัทธิมากซ์ เขาเชื่อว่าจะทำให้เกิดการล้มล้างทุนนิยมและแทนที่ด้วยลัทธิสังคมนิยม หลังจากการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ ใน ค.ศ. 1917 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ซาร์สละราชสมบัติและจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว เขากลับไปรัสเซียเพื่อมีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติเดือนตุลาคมที่ฝ่ายบอลเชวิคโค่นล้มระบอบการปกครองใหม่

ในขั้นต้น รัฐบาลบอลเชวิคของเลนินได้แบ่งปันอำนาจกับพรรคสังคมนิยมปฏิวัติฝ่ายซ้าย สมาชิกสภาโซเวียตที่มาจากการเลือกตั้ง และสภาร่างรัฐธรรมนูญหลายพรรค แม้ว่าใน ค.ศ. 1918 จะมีอำนาจรวมศูนย์ในพรรคคอมมิวนิสต์ใหม่ การบริหารของเลนินได้แจกจ่ายที่ดินให้กับชาวนาและทำให้ธนาคารและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ถูกโอนมาเป็นของรัฐ รัสเซียยังถอนตัวจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งโดยลงนามในสนธิสัญญายอมยกดินแดนให้แก่ฝ่ายมหาอำนาจกลาง และส่งเสริมการปฏิวัติโลกผ่านองค์การคอมมิวนิสต์สากล ฝ่ายตรงข้ามถูกปราบปรามในความน่าสะพรึงสีแดง ซึ่งเป็นการรณรงค์ที่รุนแรงโดยหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ผู้คนหลายหมื่นคนถูกฆ่าหรือถูกกักขังในค่ายกักกัน ฝ่ายบริหารของเขาเอาชนะกองทัพต่อต้านคอมมิวนิสต์ฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายในสงครามกลางเมืองรัสเซียระหว่าง ค.ศ. 1917 ถึง ค.ศ. 1922 และคอยดูสงครามโปแลนด์-โซเวียตใน ค.ศ. 1919-1921 ในการตอบสนองต่อความหายนะในช่วงสงคราม ทุพภิกขภัย และการลุกฮือของประชาชน ใน ค.ศ. 1921 เลนินได้สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านนโยบายเศรษฐกิจใหม่ ประเทศที่ไม่ใช่รัสเซียหลายแห่งได้รับเอกราชจากจักรวรรดิรัสเซียหลัง ค.ศ. 1917 แต่ห้าประเทศได้รวมตัวอีกครั้งเป็นสหภาพโซเวียตใน ค.ศ. 1922 สุขภาพของเขาแย่ลง เลนินถึงแก่อสัญกรรมที่กอร์กีใน ค.ศ. 1924 โดยที่โจเซฟ สตาลินเข้ามารับช่วงต่อจากเขาในฐานะบุคคลสำคัญในรัฐบาลโซเวียต

เลนินถือเป็นบุคคลสำคัญและมีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยถือเป็นหัวข้อหลังมรณกรรมของลัทธิบูชาบุคคลที่แพร่หลายในสหภาพโซเวียตจนกระทั่งสหภาพโซเวียตล่มสลายใน ค.ศ. 1991 เขากลายเป็นผู้นำในอุดมคติที่อยู่เบื้องหลังลัทธิมากซ์–เลนิน และมีอิทธิพลเหนือขบวนการคอมมิวนิสต์สากล เลนินเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีการโต้เถียงและแตกแยกอย่างมาก ผู้สนับสนุนของเขามองว่าเลนินเป็นผู้สนับสนุนลัทธิสังคมนิยมและชนชั้นแรงงาน ในขณะเดียวกันเลนินก็ถูกวิจารณ์โดยกล่าวหาว่าเขาก่อตั้งระบอบเผด็จการรวบอำนาจเบ็ดเสร็จที่คอยดูการสังหารหมู่และการปราบปรามทางการเมือง

อ่านเพิ่มเติม...
 
Wedding Rings

นาเดจดา ครุปสกายา

นาเดจดา ครุปสกายา

Nadezhda Konstantinovna Krupskaya (Russian: Надежда Константиновна Крупская, IPA: [nɐˈdʲeʐdə kənstɐnʲˈtʲinəvnə ˈkrupskəjə]; 26 February [O.S. 14 February] 1869 – 27 February 1939) was a Russian revolutionary, politician and political theorist. She was a leading figure in the Bolshevik party and was married to Vladimir Lenin.

Krupskaya was born in Saint Petersburg to an aristocratic family that had descended into poverty, and she developed strong views about improving the lives of the poor. She embraced Marxism and met Lenin at a Marxist discussion group in 1894. Both were arrested in 1896 for revolutionary activities and after Lenin was exiled to Siberia, Krupskaya was allowed to join him in 1898 on the condition that they marry. The two settled in Munich and then London after their exile, before briefly returning to Russia to take part in the Revolution of 1905.

Following the 1917 Revolution, Krupskaya was at the forefront of the political scene, becoming a member of the Communist Party's Central Committee in 1924. She was deputy education commissar from 1929 to 1939, with strong influence over the Soviet educational system, including development of Soviet librarianship.

Krupskaya died in Moscow in 1939, a day after her seventieth birthday. The circumstances of her death and personal tensions with Joseph Stalin have prompted several claims, some of which derived from Stalin's inner circle, that she was poisoned.

อ่านเพิ่มเติม...